วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

รวมประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557
เรื่อง การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ
ตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และพื้นที่ต่างๆ ของประเทศหลายๆ พื้นที่ เป็นผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มขยายตัว จนอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อ ความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวมนั้น
เพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูป โครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทั่วทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กอง บัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 16.30 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบ ดำเนินวิถีชีวิตและประกอบอาชีพต่อไปตามปกติ ให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ แบบแผนของทางราชการดังที่เคยปฏิบัติ
สำหรับข้าราชการทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆ ที่มีอาวุธเพื่อใช้ในราชการของหน่วย ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังและอาวุธโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่เพียงผู้เดียว
สำหรับคณะทูตานุทูต สถานกงสุล องค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งชาวต่างประเทศที่พำนักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะได้ ให้ความคุ้มครอง และขอยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ยังเป็นไป ตามปกติ ตามที่รัฐบาลชุดเดิมดำเนินการไว้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะยึดมั่นในความจงรักภักดี และจะปกป้องเทิดทูนดำรงรักษาไว้ ซึ่งสถาบันพระ มหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจประชาชนชาวไทย และทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 2/2557
เรื่องการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร
ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ยึดอำนาจการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 น. เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบ ร้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำความสงบสุขกลับคืนสู่ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายโดยเร็ว จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติ กฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ประกาศใช้กฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2557
เรื่องห้ามออกนอกเคหะสถาน ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหะสถาน
ตามที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ได้ยึดอำนาจการปกครองตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น. อาศัยตามความแห่งมาตรา 11 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 จึงกำหนดมาตรการดังนี้
1. ห้ามมิให้บุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหะสถานภายในเวลา 22.00 น.- 05.00 ตั้งแต่ 22 พ.ค.2557 เป็นต้นไป เว้นแต่ได้รับอนุญาต จากพนักงาน เจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน เกินสมควรแก่เหตุ
2. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกษา พ.ศ 2457 เข้าปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่ และระยะเวลาที่กำหนดได้
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ 22 พ.ค.2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 4/2557
เรื่องการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ และสถานีวิทยุชุมชน
เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้อย่างต่อเนื่อง ทันต่อสถานการณ์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 จึงให้สถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์กระจาย เสียง สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิ้ล ดำเนินการ ดังนี้
1. ให้สถานีวิทยุกระจายเสียงทุกสถานี ทั้งที่เป็นของราชการและเอกชน งดรายการประจำสถานี และให้ถ่ายทอดกระจายเสียงจากสถานีวิทยุกระจายเสียง ของกองทัพบก
2. ให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กระจายเสียงทุกสถานี ทั้งที่เป็นของทางราชการและเอกชน งดรายการประจำของสถานี และให้ถ่ายทอดออกรายการจากสถานีวิทยุ โทรทัศน์กองทัพบก
3. ให้สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิ้ลทุกสถานี งดรายการประจำของสถานี และให้ถ่ายทอดออกรายการจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 5/2557
เรื่องการสิ้นสุดชั่วคราวของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ประกาศยึดอำนาจการปกครองประเทศตามประกาศฉบับที่ 1/2557 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น .แล้วนั้น เพื่อให้การบริหารราชการภายในราชอาณาจักรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ดำเนินการดังนี้
1.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 สิ้นสุดลงชั่วคราว ยกเว้นหมวด 2 ในส่วนของพระมหากษัตริย์ 2.ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการ สิ้นสุดการ ปฏิบัติหน้าที่ 3.วุฒิสภายังคงปฏิบัติหน้าที่ตามจำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่มีอยู่ ณ วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้ 4. ศาลทั้งหลายคงมีอำนาจดำเนินการ พิจารณา และพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมาย และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 5.องค์กรอิสระ และองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ยัง คงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 6/2557
เรื่อง แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ในคณะรักษาความสงบแแห่งชาติ
เพื่อให้การบริหารประเทศ และการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่ง ในคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ ดังนี้
1. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
2. พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
3. พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
4. พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
5. พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
6. พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 7/2557
เรื่องห้ามชุมนุมการทางเมือง
เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึง ห้ามมิให้มั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้ที่ชุมนุมทางการเมืองอยู่ในปัจจุบัน ให้เดินทางกลับภูมิลำเนา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 9/2557
เรื่องให้สถานศึกษาหยุดทำการ ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2557
เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 6 และ 11 ตาม พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก สั่งให้สถานศึกษาหยุดทำการ
ทั้งนี้ สถานศึกษาทั้งของรัฐบาลและเอกชน จะหยุดทำการในวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2557
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 17/2557
เรื่องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้เพื่อให้การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตทุกประเภท ไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือนอันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือก่อให้เกิดความขัดแย้ง ความไม่สงบภายในราชอาณาจักร จึงให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายดำนินการ ดังต่อไปนี้
1. ติดตาม ตรวจสอบ และระงับยับยั้งการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารใดๆ ที่มีการบิดเบือน ยุยงปลุกปั่น อันจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักร หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
2.ให้มารายงานตัว ณ หอประชุมชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.30 น.
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 19/2557
เรื่องขอให้บุคคลสำคัญมารายงานตัวเพิ่มเติม
เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่ระดับอธิบดีหรือเทียบเท่าขึ้นไปเข้ามารายงานตัวในวันที่ 23พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 13.30น. ณ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ


 ข้อกำหนดทางกฎหมายที่ควรทราบเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึก
      ตามที่กองทัพบกโดยผู้บัญชาการกองทัพบกได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช 2457 ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เวลา 03.00 น. เป็นต้นไป พร้อมทั้งได้จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) เพื่อทำหน้าที่ในการป้องกัน ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขสถานการณ์ที่ ส่งผลกระทบต่อความเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ ตลอดจนมีอำนาจบังคับใช้กฎหมายทุกมาตราใน พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ นั้น

       การประกาศกฎอัยการศึกดังกล่าวมีข้อกำหนดทางกฎหมายที่ประชาชนทั่วไปควรทราบอยู่หลายประการ ดังนี้

 ● ระหว่างการประกาศกฎอัยการศึก ทหารเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การ  ระงับ ปราบปราม การรักษาความสงบเรียบร้อย โดยข้าราชการฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามคำสั่ง  ของทหาร (มาตรา 6)

 ● ระหว่างการประกาศกฎอัยการศึก ทหารมีอำนาจดังต่อไปนี้

                ตรวจค้นสิ่งของต้องห้าม หรือต้องยึด หรือมีไว้ในครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้  ไม่ว่าจะเป็นการค้นตัวบุคคล ยานพาหนะ เคหะสถาน สิ่งปลูกสร้าง หรือสถานที่ใด ๆ และไม่ว่า  ในเวลาใด ๆ ก็ตาม (มาตรา 9 (1))
                ตรวจข่าวสาร หนังสือ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ (มาตรา 9 (2) และ (3))
                เกณฑ์พลเมืองให้ช่วยในกิจการทหาร รวมทั้งเกณฑ์ยานพาหนะ อาหาร อาวุธ เครื่องมือ  เครื่องใช้ต่าง ๆ (มาตรา 10)
                ห้ามประชาชนกระทำการต่าง ๆ เช่น ห้ามมั่วสุม ห้ามโฆษณา ห้ามใช้เส้นทางสาธารณะ ห้าม  ออกนอกเคหะสถาน เป็นต้น (มาตรา 11)
                ยึดทรัพย์สินที่ได้จากการตรวจค้น จากการเกณฑ์ และทรัพย์สินที่เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามต่าง ๆ  ดังที่กล่าวมาข้างต้น (มาตรา 12)
                เข้าพักอาศัยในสถานที่ที่ทหารเห็นว่าจำเป็นเพื่อประโยชน์ในราชการ (มาตรา 13)
                กักตัวบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎอัยการศึกหรือฝ่าฝืนคำสั่งทหาร เป็นเวลา  ไม่เกิน 7 วัน (มาตรา 15 ทวิ)

          ทั้งนี้ โดยบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการใช้อำนาจของทหารดังที่กล่าวมานั้นไม่สามารถฟ้องเรียก ค่าเสียหายหรือค่าปรับจากทหาร ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ (มาตรา 16)


          อนึ่ง แม้ว่าการประกาศใช้กฎอัยการศึกจะสามารถกระทำได้โดยฝ่ายทหารก็ตาม แต่การเลิกใช้กฎอัยการศึกจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีประกาศกระแสพระบรมราชโองการเท่านั้น (มาตรา 5)